7. พันธมิตรทางธุรกิจ การมีพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีจะส่งผลทำให้การประกอบธุรกิจของเรามีการประสบความสำเร็จได้รวดเร็วขึ้นโดยสามารถแบ่งประเภทของพันธมิตรได้ 3 ประเภทดังนี้
7.1 การสร้างพันธมิตรกับธุรกิจที่ไม่ใช่คู่แข่งแต่มีรูปแบบการดำเนินงานหรือมีผลิตภัณฑ์อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน เช่น ธุรกิจร้านอาหารตามสั่ง และธุรกิจร้านขายน้ำผลไม้ปั่นสามารถมาตั้งขายอยู่ข้างกันเนื่องจากสามารถแบ่งปันกลุ่มลูกค้าร่วมกันได้
7.2 การสร้างพันธมิตรกับธุรกิจที่เป็นคู่แข่งโดยร่วมกันสร้างกลยุทธ์เพื่อให้สามารถเข้าถึงฐานลูกค้าที่มากขึ้น เช่น ร้านเสื้อผ้าในสไตล์ที่ต่างกันรวมกันจัดงานแสดงสินค้าเดียวกันจะสามารถดึงดูดลูกค้าให้มาซื้อสินค้าได้มากขึ้น
7.3 การสร้างความร่วมมือทางธุรกิจเพื่อต่อยอดเป็นธุรกิจใหม่ หรือเรียกว่าพันธมิตรแบบธุรกิจร่วมทุนเป็นการร่วมทุนในการจัดตั้งองค์กรใหม่ร่วมกันเพื่อดำเนินงานอย่างใดอย่างหนึ่งตามวัตถุประสงค์ร่วมกัน เช่น จัดตั้งบริษัทผลิตกระเป๋าเก็บความเย็นของเครื่องดื่มเพื่อจัดจำหน่ายให้บริษัทที่ร่วมลงทุน และบริษัทอื่น ๆ
7.4 การสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจแบบต้องพึ่งพากันเพื่อความอยู่รอด หรือการสร้างพันธมิตรระหว่างผู้ผลิต และผู้ซื้อเช่น ผู้ผลิตอาหารแช่แข็งกับร้านสะดวกซื้อ
8. อุปสรรคและวิธีการแก้ไข
8.1 สินค้าบางชนิดจะขาดตลาดในช่วงเทศกาลทำให้มีสินค้าไม่เพียงพอต่อการบริการ วิธีการแก้ คือ สต็อกสินค้าไว้ก่อนช่วงเทศกาล
8.2 มีจำนวนพนักงานไม่เพียงพอทั้งจากพนักงานลาป่วย ลากิจ กลับต่างจังหวัด หรือไม่ยอมมาทำงาน และต้องนำพนักงานฝ่ายอื่นไปช่วยฝ่ายที่คนไม่เพียงพอ ทำให้การทำงานไม่ได้ประสิทธิภาพสูงสุด วิธีการแก้คือหาบุคลากรชั่วคราวมาทำงานแทนคนที่กลับต่างจังหวัดหรืไม่มาทำงาน แต่ถ้าหากยังแก้ไขไม่ได้ก็จะถูกต้องพิจารณาให้ออกจากการทำงาน
8.3 สินค้าบางชนิดมาการขึ้นราคามากเกินความพอดีทำให้ต้นทุน และยอดขายสินค้านั้นลดลง วิธีการแก้ไขคือหาสินค้าที่สามารถนำมาทดแทนสินค้าดังกล่าวมาจำหน่ายก่อน
9. การพิจารณาความสำเร็จ การพิจารณาว่าธุรกิจของเราประสบความสำเร็จขึ้นอยู่กับจุดหมายของผู้ประกอบการว่าอยากได้มากน้อยแค่ไหนโดยมีหลักดั้งนี้

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น