ในการประกอบธุรกิจ
SME มีการใช้หลักการทั่วไปในการประกอบธุรกิจ
โดยเริ่มต้นจาก
1.เงินทุนในการประกอบธุรกิจ ในการประกอบธุรกิจSMEเงินทุนมีความสำคัญมากโดยสามารถแบ่งเงินทุนเป็น3ส่วนได้ดังนี้
1.1 เงินทุนสำหรับสินค้า ขึ้นอยู่กับขนาดของธุรกิจแต่ไม่ควรต่ำกว่า20,000บาท
1.2
เงินทุนสำหรับสถานที่ค่าตกแต่งสถานที่ ค่าน้ำ ค่าไฟ ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้ง
แต่ควรเพียง พอต่อการประกอบธุรกิจ 3
เดือนเป็นอย่างต่ำ
1.3
เงินทุนฉุกเฉิน ไว้ใช้ในเวลาที่สภาพการเงินของร้านเกิดขาดสภาพคล้อง
2.การเลือกทำเลที่ตั้ง
ทำเลที่ตั้งของธุรกิจมีผลต่อการขายโดยตรงเพราะฉะนั้นเราควรเลือกทำเลที่ตั้งตามหลักดังนี้
2.1 ต้องอยู่ในย่านชุมชนหนาแน่นเพื่อที่จะได้มีลูกค้ามาก เช่น ในตัวเมือง แหล่งชุมชน เป็นต้น
2.2 ต้องอยู่บริเวณที่มีคนสามาสังเกตร้านได้ง่ายเพื่อที่จะทำให้มีลูกค้าหน้าใหม่ๆเช่น บริเวณที่ติดถนน เป็นต้น
2.3
ต้องมีการคมนาคมที่สะดวกง่ายต่อการขนส่งสินค้า
3.
การแบ่งหน้าที่การทำงาน
3.1 ฝ่ายขาย มีหน้าที่ รับสั่งสินค้าโดยการสั่งสินค้า
มี 2 ทางคือ การโทรศัพท์เข้ามา หรือการเดินทางมาสั่งที่ร้านโดยตรง
โดยวิธีจดข้อมูลและส่งไปยังฝ่ายบริการ
3.2 ฝ่ายบริการ มีหน้าที่
รับข้อมูลการสั่งสินค้าจากฝ่ายขาย และนำสินค้าจากสต๊อกมาให้กับลูกค้าการรับสินค้าสามารถทำได้
2วิธี คือ สั่งแล้วรอรับของเลย สั่งแล้วให้ทางร้านส่ง สินค้าไปตามที่อยู่ของลูกค้า
3.3 ฝ่ายบัญชี มีหน้าที่ 2 ส่วน คือ
รับเงินจากลูกค้ามีทั้งเงินสด และการโอนอีกส่วน คือการ ทำบัญชี จะทำตั้งแต่การทำ statement หรือก็คือการตรวจเช็ครายรับรายจ่ายไปจนถึงการ คิดเงินเดือน และทำหน้าที่ดูแลราคาสินค้า
3.4 ฝ่ายดูแลสต๊อกสินค้า
มีหน้าที่ดูแลจำนวนสินค้าในสต๊อก และสั่งซื้อเพิ่มเพื่อให้เพียงพอ ต่อการจำหน่าย
4.
กลยุทธ์ทางการขาย
ในการประกอบธุรกิจการมีลูกค้าที่มากจะทำให้กำไรของเราเพิ่มขึ้นตามไปด้วยเพราะฉะนั้นการมีกลยุทธ์ทางการขายเพื่อดึงดูดลูกค้าจึงมีความจำเป็นโดยมีวิธีการดังนี้ 4.1 การจัดแสดงสินค้าภายในร้าน
4.2 ต้องคิดแคมเปญพิเศษเพื่อดึงดูดใจลูกค้า
เช่น โปรโมชั่น การแถม หรือการลดราคา
เป็นต้น
4.3 ต้องมีการบริการเสริมต่างๆ เช่น
การบริการขนส่งสินค้าให้ฟรี เป็นต้น
4.4
การบริการลูกค้าด้วยความจริงใจและซื่อสัตย์
5. การตั้งราคา ผู้ประกอบการควรนำวิธีการตั้งราคาจากคุณค่าของสินค้า
หรือบริการที่ผู้บริโภครับรู้คือนำราคาของคู่แข่งที่ใกล้เคียงกับเราในท้องตลาดมาเป็นราคาอ้างอิงราคาที่เหมาะสมคือ
ราคาอ้างอิงบวกเพิ่มด้วยความเต็มใจจ่ายสำหรับคุณค่าของสินค้า
และบริการของเราที่ดีกว่า หรือแตกต่างจากคู่แข่งและหักลบด้วยราคาสำหรับความแตกต่างของสินค้า
และบริการที่ด้อยกว่าคู่แข่งนอกจากนี้ยังมีเทคนิคการตั้งราคาโดยหลักจิตวิทยาเพื่อทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการได้ง่ายขึ้น
6. การเลือกสินค้ามาจัดจำหน่าย
6.1 สินค้าที่มียอดขายสม่ำเสมอ สินค้าที่เป็นที่รู้จักกันทั่วไป เช่น โคคาโคล่า โออิชิ เป็นต้น
6.2 สินค้าที่กำลังเป็นที่นิยมในตอนนั้น เช่น การออกรสชาติใหม่ของน้ำอัดลม เป็นต้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น